- บล็อก
- SAT คืออะไร ?
SAT เป็นข้อสอบ admission กลางในการเข้ามหาวิทยาลัยในประเทศสหรัฐอเมริกา เริ่มใช้มาตั้งแต่ปี 1926 โดยในแต่ละปีมีผู้เข้าสอบถึง 1.66 ล้านคนทั่วโลกในปี 2012 สำหรับประเทศไทยนั้นก็มีเปิดให้สอบเช่นเดียวกัน และสามารถใช้คะแนน SAT เป็นคะแนนเข้ายื่นสมัครใน มหาลัยชั้นนำ เช่น จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, มหาลัยธรรมศาสตร์ ในหลักสูตรนานาชาติ โดยแต่ละคณะนั้นจะมีเกณฑ์คะแนนขั้นต่ำแตกต่างกัน
SAT I คือ SAT มีชื่อเต็มว่า Scholastic Assessment Test หรือที่รู้จักทั่วไปว่า “SAT I”
เป็นข้อสอบที่ใช้วัดระดับความรู้ความสามารถของนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย (High School) ที่ต้องการศึกษาต่อระดับปริญญาตรี โดยนักเรียนที่สอบ SAT I สามารถนำคะแนนที่สอบได้ ไปสมัครเรียนได้ทุกมหาวิทยาลัย การสอบ “SAT I” จะประกอบด้วยข้อสอบ 3 ส่วน คือ Critical Reading, Math และ Writing โดยแต่ละส่วนจะคิดเป็นคะแนนส่วนละ 800 คะแนน รวมทั้งหมด 2400 คะแนน เวลาที่ใช้ในการสอบประมาณ 3 ชั่วโมงครึ่ง
การสอบ SAT แบ่งข้อสอบออกได้ดังนี้
Verbal Section : เป็นการทดสอบในเรื่องของ Reading, Grammar และ Analytical Reasoning โดยมีรูปแบบของคำถามเป็น Analogies, Sentence Completion และ Critical Reading ข้อสอบออกแนววรรณกรรม วรรณคดีต่างประเทศ ซึ่งผู้สอบจะเจอ Passage ที่ยาวมากๆ คำศัพท์ส่วนใหญ่เป็นศัพท์สูง ศัพท์เฉพาะ (อันนี้ต้องท่องศัพท์เพิ่มกันเยอะๆ นะครับ) และน้องๆ ต้องทำข้อสอบแข่งกับเวลา เพราะจะมีระยะเวลาในการสอบแค่ 1 ชั่วโมง 15 นาที ต่อข้อสอบจำนวน 55 ข้อ
ข้อสอบ SAT และผลคะแนนสอบ
ข้อสอบ SAT แบ่งออกเป็น 7 section เวลาในการสอบคือ 3 ชั่วโมง โดยจัดแบ่งข้อสอบดังนี้
SAT Verbal : มี 3 ส่วน ซึ่งทดสอบในเรื่องของ Reading, Grammar และ Analytical Reasoning โดยมีรูปแบบของคำถามเป็น Analogies, Sentence Completion และ Critical Reading ระยะเวลาของการสอบคือ 1 ชั่วโมง 15 นาที
SAT Math : มี 3 ส่วนเช่นกัน ซึ่งทดสอบในเรื่องของ Algebra, Arithmetic และ Geometry โดยมีรูปแบบของคำถามแบบ Quantitative Comparisons (QCs), Regular Math และ Grid-ins ระยะเวลาของการสอบคือ 1 ชั่วโมง 15 นาที
Experimental: การสอบใน 1 section ที่เหลือนี้ จะเป็นเรื่องของบททดสอบ ซึ่งอาจเป็นทางด้านของ Verbal หรือ Math และใช้เป็นข้อมูลภายในของ ETS เท่านั้น คะแนนในส่วนนี้ จะไม่นำมารวมกับคะแนนในส่วนอื่นๆ
ผลคะแนน SAT
ผู้สอบจะได้รับคะแนนแบ่งเป็น 2 ส่วนคือส่วนของ Math และส่วนของ Verbal ในแต่ละวิชานี้ จะมีระดับคะแนนอยู่ในช่วง 200 – 800 โดยระดับคะแนนเฉลี่ยของทั้งประเทศจะอยู่ในช่วงประมาณ 500 ของแต่ละวิชา หรือคะแนนรวม 1,000 อย่างไรก็ดี สถาบันการศึกษาที่มีอัตราการแข่งขันค่อนข้างสูง มักต้องการระดับคะแนนที่สูงกว่านี้มาก
ระดับ คะแนนที่แต่ละสถาบันการ ศึกษาต้องการ จะมีความแตกต่างกันไป แต่อย่างไรก็ดี สถาบันการศึกษาเหล่านี้ ก็พิจารณาปัจจัยอื่นๆประกอบด้วย รวมถึง GPA และใบรายงานผลการเรียน จดหมาย recommendation การสัมภาษณ์ และการเขียนบทความเกี่ยวกับตัวเองของนักศึกษา นอกจากนี้ สถาบันการศึกษาทุกแห่งยังสามารถรับพิจารณาผล ACT แทนผล SAT ได้
=============